เมื่อวันที่ 9 ก.พ.นาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ประกาศชัยชนะการเลือกตั้งระดับชาติที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยเขาอ้างว่า พรรคพรรคสันนิบาตมุสลิมของเขากลายพรรคที่ใหญ่ที่สุดที่ได้รับคะแนนสนับสนุนจากการเลือกตั้ง และเตรียมหารือกับพรรคอื่น ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมต่อไป
ทั้งนี้การประกาศชัยชนะของ นาวาซ ชารีฟ มีขึ้น หลังจาก คณะกรรมการการเลือตั้งปากีสถาน ได้ประกาศผลการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นไปมากกว่า 3 ใน 4 ของที่นั่งทั้งหมด 265 ที่นั่ง
ผู้นำอิสราเอลสั่งกองทัพเตรียมแผนอพยพพลเรือนราฟาห์-ถล่มฮามาส
สหรัฐฯขู่เลิกสนับสนุนอิสราเอล หากถล่มราฟาห์
“ปูติน” เปิดใจกับนักข่าวตะวันตกครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มสงครามยูเครน คำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม
ส่วนผลการนับคะแนนล่าสุดพบว่า กลุ่มผู้สมัครอิสระต่าง ๆ หลายกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกจำคุกได้รับที่นั่งรวมกันมากที่สุด 92 ที่นั่ง ขณะที่พรรคของนาวาซ ชารีฟ เพียงพรรคเดียวคว้าที่นั่งไปได้ 64 ที่นั่ง ส่วนพรรคประชาชนปากีสถาน (PPP) ของบิลาวัล บุตโตคว้าไป 50 ที่นั่ง
จากตัวเลขจะเห็นว่า แม้พรรคของนาวาซ ชารีฟจะได้ที่นั่งมากที่สุด แต่ยังไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ นี่จึงทำให้พรรคกลุ่มผู้สนับสนุนอิมราน ข่าน ที่รวมกันได้มากกว่า 90 ที่นั่งออกมาประกาศชัยชนะ
แม้การเลือกตั้งสิ้นสุดลงนานกว่า 24 ชั่วโมง แต่การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น ผลกระทบจากการประกาศผลการเลือกตั้งที่ล่าช้า และการก่อเหตุโจมตีของกลุ่มติดอาวุธในปากีสถานก่อนวันเลือกตั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 ราย ส่งผลทำให้ปากีสถานตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมืองเพิ่มเติม
ส่วนวันเดียวกัน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มผู้สนับสนุน พรรคปากีสถาน เตห์รีค-อี-อินซาฟ หรือ PTI ของอิมราน ข่าน ปะทะกับตำรวจในเมืองแชงลา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้จุดไฟเผารถตำรวจ และตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม จากเหตุการณ์นี้ส่งผลทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 2 คน
ขณะที่ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการประกาศผลการเลือกตั้งที่ล่าช้า พร้อมข้อกล่าวหาเรื่องของการโกงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเลือกตั้งปากีสถานครั้งนี้อาจไม่มีผู้ชนะชัดเจน ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้ก็เกิดขึ้น ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ และการต่อสู้กับความรุนแรงของกลุ่มติดอาวุธที่เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่มีการแบ่งขั้วแบบฝังรากลึก